Sunday, August 22, 2010

ตาม ติดการช่วยชีวิคหนุ่ม 26 ปี ไตวายระยะสุดท้าย

พี่น้อย โทรมาตามเภสัชกรว่า คนไข้บอกว่าแพ้ยา เลยไม่ยอมกินยา เพราะกินยาแล้วเวียนหัว เลยโทรมาตามเภสัชกร ให้มาจัดการ ปกติพยาบาล จะตามหาเภสัชกร ก็มีแต่เรื่องเก็บ ADR และไปสอนคนไข้ใช้ยาพ่น ผมก็เลยรีบไป สอบถามคนไข้ ชายหนุ่มอายุ 26 ปี เปิดดูชาร์ตแล้วพบว่า BUN=110 Cr= 19.95 โอ้พระเจ้า ยอร์จ เป็น ESRD ไตวายระยะสุดท้าย น้องแกบอกว่า ผมไตวายมา 7 เดือนแล้ว ไม่ได้ไปรักษา เพราะค่าฟอกไตแพงมาก ในช่วงแรก ของอาการไตวายก็ไม่มีอะไร นอกจากความดันสูงมากเฉย ๆ ตอนนี้แย่เหนื่อยทำงานไม่ไหว เพราะน้ำท่วมปอด เป็น หัวใจล้มเหลว(CHF ) ผมเลย ถามต่อว่าจะไปฟอกไตไหม

คนไข้ตอบว่าไม่ไปหรอก เพราะไม่มีเงิน แต่ จะรอไตพี่สาวมาเปลี่ยนให้ ผมเลยว่าแล้วจะได้เปลี่ยนไตตอนไหน คนไข้ตอบไม่รู้ ผมเลยบอกน้องว่าไปฟอกไตเลยครับ หากรอชักช้า คงได้เปลี่ยนไตชาติหน้า แน่นอน (ตายก่อน) คนไข้ก็บอกผมว่าไม่มีเงินครับ ผมบอกว่าฟอกไตทางหน้าท้อง(CAPD) บัตรทองฟอกฟรี ไม่มีใครเคยบอก น้องเลยเหรอ คนไข้ น้ำตาลซึม บอกว่าไชโยผมไม่ตายแล้วครับพี่หมอ

น้อง พี่ถามไม่มีใครเคยบอกน้องเลยเหรอ ว่า ฟอกไตฟรีแล้ว แต่จะว่าฟรี ก็คงไม่ถูก เพราะต้อง ทำห้องฟอกไต ทำห้องน้ำสะอาด และอ่างล้างมือ บวกกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ราวๆ 30000 บาท น้องพอจะไหวไหม น้องคนนั้นตาเป็นประกายแล้วบอกว่าแค่นี้ ผมจ่ายไหวครับ ผมคิดในใจ ได้ช่วยชีวิตคนไข้ไตวายอีกแล้ว รายนี้ อายุแค่ 26 ปีเอง (คนก่อนก็ 26 ปี ตายที่โคกสูงจากไตวาย ช่วยไม่ทันจริงๆ เลยครับ เสียดายมาก) เดี๋ยวมาเล่าต่อวันหลังครับ

ปล. คนไข้แพ้ยาที่ รพศ.ขอนแก่น รู้ว่าเม็ดขาวเหลี่ยมๆ แต่ไม่ทราบชนิดยา กินแล้วเวียนหัวมาก (อาจไม่แพ้ก็ได้น่ะ) เคสนี้ อาจต้องฟอกไตแบบ haemodialysis ก่อน อาจต้องเสียเงิน???เอา ไงดีพี่น้อง gotoknow ช่วยผมด้วย ผมคนเดียว อาจทำไม่สำเร็จ แต่สมาชิก gotoknow มากมาย มาช่วยกันผมว่า เคสนี้ รอด ขอเป็น reality show แล้วกัน


คนไข้ไตวายระยะสุดท้ายหลาย คนต้องตายเพราะไม่ได้ฟอกไต

ในโรงพยาบาลชุมชน ไม่มีใครรับดูแลเรื่องนี้ ผมแค่แส่เข้าไป ช่วยคนไข้ก็เท่านั้นครับ

Sunday, August 1, 2010

อาหารที่ควรรับประทานเพื่อลดไขมัน

อาหารที่ควรรับประทานเพื่อลดไขมัน

ดู เหมือนจะเป็นเรื่องไม่ยากที่จะบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง แต่กลับเป็นเรื่องยากในการเลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ ไขมันประเภทที่เรียกว่า “ไขมันชนิดเลว” นั้น สามารถทำร้ายสุขภาพของเราได้มากมาย ต่อไปนี้คือทางเลือกอาหารเพื่อสุขภาพของคุณ ที่มีไขมันต่ำ

  1. ข้าวโอ๊ต ขั้นตอนแรกในการดูแลโคเลสเตอรอลในร่างกายของคุณ ด้วยข้าวโอ๊ตหนึ่งถ้วยยามเช้า ซึ่งจะให้ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ต่อร่างกายของคุณประมาณ 1 – 2 กรัม และจะดีขึ้นมากถ้าเพิ่มสตรอเบอรี่หรือกล้วยเข้าไปในมื้ออาหาร
  2. ข้าวบาร์เลย์ หรือผลิตภัณฑ์จากธัญพืช อาหารเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และให้ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยในการขับถ่าย
  3. ถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาวอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ที่ช่วยในการขับถ่าย นอกจากนี้ถั่วฝักยาวยังช่วยให้สามารถลดน้ำหนักลงได้
  4. มะเขือยาวสีม่วง และกระเจี๊ยบ พืชทั้งสองชนิดนี้เป็นพืชที่แคลอรี่ต่ำ และอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้
  5. ผลไม้เปลือกแข็ง เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ จากการศึกษาวิจัยชี้ให้เห็นว่าการบริโภคถั่วลิสง หรืออัลมอนด์ หรือวอลนัต ประมาณ 2 ออนซ์ต่อวัน ช่วยลดไขมันแอลดีแอล หรือไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายได้ถึง 5%
  6. น้ำมันพืช การใช้น้ำมันจากดอกคาโนลา น้ำมันดอกทานตะวัน หรือน้ำมันจากพืชอื่น ๆ แทนการใช้เนย หรือน้ำมันหมู ช่วยลดไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายได้
  7. แอปเปิ้ล องุ่น สตอรเบอรี่ และผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้จำพวกนี้อุดมไปด้วยเพคทิน ซึ่งก็คือไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
  8. อาหารจำพวกสตีรอยด์และสเตนอล (Sterols and stanols) สตีรอยด์และสเตนอลเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวไรย์ และพืชอื่น ๆ จากธรรมชาติ การบริโภคเพียงวันละ 2 กรัมจะช่วยลดโคเลสตอรอลในร่างกายได้ 10%
  9. ถั่วเหลือง การรับประทานถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ หรือน้ำนมถั่วเหลืองช่วยลดระดับไขมันชนิดเลวในร่างกายได้
  10. น้ำมันตับปลา การรับประทานปลา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยสารโอเมก้า 3 ในน้ำมันตับปลาช่วยลดไขมันชนิดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้ นอกจากนี้โอเมก้า 3 ในปลายังช่วยลดไตรกลีเซอรีนในกระแสเลือด และช่วยป้องกันการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
  11. ไฟเบอร์เสริม เป็นการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ให้กับร่างกายมากขึ้น โดยอาจรับประทานแมงลักประมาณวันละ 2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยในระบบการขับถ่ายได้ดี

บทความจาก: HarvardHealthPublications

: กาย
: บทความ
: สุขภาพดี
จริญญา 12 ต.ค. 2552 13 ต.ค. 2552
ความคิดเห็น (2)

thank…U

olivenaruk2527@cmail.com (125.27.38.108) 20 พฤศจิกายน 2552 - 15:23 (#529)

good article จิงๆ

Natthapol 20 พฤศจิกายน 2552 - 20:32 (#530)

Wednesday, May 5, 2010

กินแบบชาวกรีก เพิ่มพลังสมอง

กินแบบชาวกรีก เพิ่มพลังสมอง

ใครอยากเพิ่มพลังสมอง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสมองเสื่อม ต้องรับประทานอาหารแบบชาวกรีก

การ รับประทานอาหารแบบชาวกรีก หรืออาหารเมดิเตอร์เรเนียนนั้น ไม่ใช่การรับประทานอาหารที่ต้องนำเข้ามาจากประเทศกรีซ หรืออาหารเลิศหรูแต่อย่างใด แต่เป็นการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ ปลา น้ำมันมะกอก และธัญพืชไม่ขัดสี รวมทั้งลดการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ลง ซึ่งนักวิจัยจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัชในเมืองชิคาโก (Rush University Medical Center in Chicago) เชื่อว่าการรับประทานอาหารเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูให้สมองของผู้สูงอายุดีขึ้น โดยจะสามารถจำแนกสัญลักษณ์และตัวเลขได้

นอกจากนี้นักวิจัยยังได้ ทำการศึกษาในกลุ่มคนจำนวน 4,000 ราย ทั้งคนผิวขาวและผิวดำ อายุประมาณ 65 ปีขึ้นไป โดยได้ทำการทดสอบเกี่ยวกับความจำ รวมทั้งสัมภาษณ์เก็บข้อมูล และจะทำการติดตามเก็บข้อมูลทุกๆ 3 ปีเป็นเวลา 15 ปี ซึ่งนักวิจัยคาดไว้ว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ซึ่งคล้ายกับการรับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนั้นน่าจะมีส่วนช่วยปกป้อง ความจำไม่ให้เสื่อมลงได้ นอกจากนี้ ดร.คริสตี้ แทงค์เนย์ (Christy Tangney) ผู้นำการวิจัยครั้งนี้ยังกล่าวว่าอยากให้ผู้สูงอายุจดจำไว้ว่า นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว การออกกำลังกายก็เป็นส่วนสำคัญของการคงไว้ซึ่งความจำด้วย

ข่าวจาก: DNA

นอน 7 ชั่วโมงแล้วดี

การนอนหลับที่ดีคือกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีและชีวิตที่ยืนยาว เมื่อผลงานวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าผู้ที่ใช้เวลาในการนอนหลับในช่วงเวลากลาง คืนอยู่ระหว่าง 6-8 ชั่วโมง มีแนวโน้มที่จะมีชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพดีกว่าผู้อื่น

นัก วิจัยกล่าวว่าชาวอังกฤษส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาช่วงกลางคืนในการนอนหลับอยู่ที่ ประมาณ 7 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นระยะเวลาการนอนหลับที่ดีที่สุดในช่วงกลางคืน แต่ยังคงพบว่าประชากรวัยกลางคนชาวอังกฤษจำนวน 1 ใน 3 เป็นผู้ที่มีระยะเวลาในการนอนหลับช่วงกลางคืนอยู่ที่ประมาณ 5 ชั่วโมงหรือต่ำกว่านั้น

นักวิจัยพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อร่างกายและเป็นที่มาของการเสียชีวิตเร็วก่อนวัยอันควร

นัก วิจัยจากมหาวิทยาลัยวอร์วิคและมหาวิทยาลัยเฟดเดอริโก 2 ในเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี ศึกษาพฤติกรรมการนอนหลับของผู้คนกว่า 1,000 คน พบผู้ที่มีพฤติกรรมการนอนหลับไม่เหมาะสม 12% ซึ่งเป็นผู้ที่มีแนวโน้มจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่าผู้ที่นอนหลับช่วง กลางคืน 6-8 ชั่วโมง

Thursday, April 1, 2010

โภชนาการกับโรคมะเร็ง

โภชนาการกับโรคมะเร็ง

มะเร็ง เป็นโรคร้ายติดอันดับที่คร่าชีวิตประชากรโลกมาแล้วอย่างมากมาย ซึ่งมะเร็งบางชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มแรก


สำหรับ การเกิดโรคมะเร็งนั้นมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอยู่หลายประการทั้งจากภายในร่าง กาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม และจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารเคมี รังสี ไวรัส พยาธิบางชนิดตลอดจนความไม่สมดุลทางภาวะโภชนาการ


จากการศึกษาพบว่า อาหารอาจมีส่วมสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งได้ประมาณ 30-50 % แต่ในขณะเดียวกันอาหารประเภทพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และเครื่องเทศต่างๆ ก็มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ จึงเป็งหนทางหนึ่งซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้




อาหารที่มีคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็ง



  1. อาหารที่มีกากมาก ได้แก่ ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชต่างๆ

  2. อาหารที่มีเบต้า-แคโรทีนสูง ได้แก่ ผัก ผลไม้ที่มีสีเหลืองสดหรือสีส้ม เช่น ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก แตงโม แครอท และผักสีเขียวเข้ม เช่น ตำลึง คะน้า บรอคโคลี และผักขม เป็นต้น

  3. อาหารที่มีไวตามินซีสูง ได้แก่ ผักสดและผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม ขนุน และมะละกอสุก

  4. ผักตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า และบรอคโคลี

  5. เครื่องเทศต่างๆ ได้แก่ กระเทียม ขมิ้น






อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคมะเร็ง



  1. อาหารที่มีราขึ้นโดยเฉพาะราสีเขียว-สีเหลือง

  2. อาหารไขมันสูง

  3. อาหารเค็มจัด และอาหารที่ถนอมด้วยเกลือดินประสิว

  4. ส่วนที่ไหม้เกรียมของเนื้อสัตว์ ปิ้ง ย่าง ทอด รมควัน

  5. อาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืดดิบๆ เช่น ปลาขาว ปลาตะเพียน หรือปลาแม่สะแด้ง เป็นต้น






ที่มา: แผ่นพับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข


เอื้อเฟื้อแผ่นพับโดย : โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

: กาย
: บทความ
: สุขภาพดี
อัญชลี 27 ก.ค. 2552 27 ก.ค. 2552

Sunday, January 17, 2010

อาหารเพื่อประสิทธิภาพของสมอง

อาหารเพื่อประสิทธิภาพของสมอง

หาก คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน งานวิจัยล่าสุดพบว่า การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จะช่วยให้คุณมีพื้นที่ในท้องสำหรับอาหารแคลลอรี่สูงน้อยลง และอาหาร 5 ชนิดต่อไปนี้สามารถทำให้คุณมีสมองที่เปี่ยวประสิทธิภาพมากขึ้น

ไข่

การ รับประทานไข่ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณภาพของสมองของคุณมีประสิทธิภาพดีเทียบเท่ากับคนที่อายุอ่อนกว่า ถึง 10 ปี ควรรับประทานไข่ปริมาณ 55 ไมโครกรัมทุกวัน
เมนูแนะนำ ไข่เจียวผัก

ผักขม, กะหล่ำปลี

สาร แคโรทีนอย และ ฟลาโวนอย ในผักสีเขียวเข้มนี้มีประโยชน์ต่อสมองเป็นอย่างมาก สามาถช่วยให้คุณรู้สึกเด็กลงไปได้อีก รับประทาน 3 มื้อ หรือมากกว่า ต่อวัน สามารถชะลอภาวะหดหู่ของจิตใจอันเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นได้ถึง 40 %

บลูเบอร์รี่

สารประกอบในบลูเบอร์รี่จะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ รวมทั้งริ้วรอยที่เกิดจากวัยได้

วอลนัทและปลา

นอก จากปลาแซลมอนแล้ว สารโอเมก้า 3 สามารถพบได้ในลูกวอลนัทอีกด้วย ดีเอชเอในโอเมก้า 3 จะทำหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์สมอง ทำให้สมองของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ปริมาณที่เหมาะสมคือ 600 มิลลิกรัมต่อวัน

มัสตาร์ด

ขมิ้น ส่วมผสมในมัสตาร์ด สามารถช่วยกระตุ้นให้ยีนส์ ซึ่งทำหน้าที่กำจัดขยะในสมอง(ตัวทำลายเซลล์สมอง) ปริมาณที่เหมาะสมของขมิ้นที่ควรได้รับต่อวันคือ 17 มิลลิกรัม หรือประมาณมัสตาร์ดหนึ่งช้อนชา

ที่มา fooddrinks

: กาย
: ข่าว
: สุขภาพดี
อัมพวรรณ 03 ม.ค. 2553 04 ม.ค. 2553
ความคิดเห็น (2)

รูปสลับกันรึป่าวค่ะ

แบม (117.47.179.106) 04 มกราคม 2553 - 21:37 (#629)

แก้ไขแล้ว ขอบคุณมากค่ะ

อัมพวรรณ 05 มกราคม 2553 - 11:07 (#631)

Friday, January 15, 2010

ไม้ประดับกำจัดสารพิษ

ไม้ประดับกำจัดสารพิษ

ปัจจุบัน อาคารสำนักและบ้านเรือนมักนิยมปลูกไม้ประดับในอาคาร เพื่อสร้างบรรยากาศในอาคารให้ใกล้ชิดธรรมชาติ จึงมีไม้ประดับไม่กี่ชนิดที่เหมาะกับสภาพอากาศที่ปราศจากแสงแดดแต่อยู่ได้ ด้วยแสงจากหลอดไฟฟ้าและมีคุณสมบัติพิเศษช่วยกำจัดสารพิษได้ด้วย

ดร. บี ซี วูฟเวอร์ตัน (Dr. B.C. Wolverton) นักวิจัยแห่งสถาบันวิจัยอวกาศนาซ่าได้ทำการวิจัยพบคุณสมบัติของไม้ประดับใน การกำจัดสารพิษหรือมลภาวะในอากาศได้อย่างดีและผลการวิจัยนี้ได้พิมพ์เผยแพร่ ทั่วโลกในหนังสือชื่อ Eco-Friendly House Plant (ไม้ประดับที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) ได้แนะนำไม้ประดับจำนวน 50 ชนิด ที่มีคุณสมบัติในการดูดไอพิษจากอากาศไม่ว่าจะเป็นฟอร์มาลดีไฮด์ แอมโมเนีย ไซลีน ทูลีน รวมทั้งไอเสียที่เกิดจากมนุษย์ ซึ่งไม้ประดับเหล่านี้เป็นไม้ประดับที่เรารู้จักเป็นอย่างดี สวยงามดูแลรักษาง่าย นิยมปลูกกันทั่วไป เพียงแต่เราไม่สนใจที่จะรู้ถึง คุณสมบัติในการดูดสารพิษของไม้ประดับเหล่านี้มาก่อน ดังนั้นเรามาศึกษากันว่ามีไม้ประดับชนิดใดบ้างที่สามารถกำจัดสารพิษได้ อาทิ

สาวน้อยประแป้ง (Dumb Cane)
สาว น้อยประแป้ง เป็นไม้ประดับทีนิยมนำมาปลูกทั้งภายนอกและภายในอาคารมานานแล้ว เพราะเลี้ยงง่าย ทน และใบมีลวดลายสวยงาม แต่ น้อยคนที่จะรู้ถึงคุณค่าของสาวน้อยประแป้งในฐานะเป็นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศ สามารถดูดสารพาได้มากชนิดหนึ่ง สาวน้อยประแป้งมีใบใหญ่คล้ายใบพาย มีตั้งแต่สีเขียวอ่อน เขียวแก่ไปจนถึงสีเหลืองอ่อนๆมีลายแต้มประปรายสีขาวหรือเหลืองอ่อน จึงได้ชื่อว่า สาวน้อยประแป้ง เป็นไม้ประดับที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม ชอบอากาศอบอุ่นและความชื้นสูง แต่ก็สามารถปรับตัวเจริญเติบโตได้ดีในห้องที่มีความเย็นและสภาพอากาศแห้ง จึงเป็นพืชที่ปลูกและดูแลได้ง่าย

หมากเหลือง (Areca Palm หรือ Yellow Palm)
หมาก เหลือง เป็นไม้ประดับภายในอาคารที่นิยมปลูกชนิดหนึ่ง มีความสวยงาม ทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายในอาคาร และคายความชื้นภายในห้องได้ดี มีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษจากอากาศได้ในปริมาณมาก หมากเหลืองเป็นพืชตระกุลปาล์มที่ปลูกง่าย โตเร็ว เป็นพันธ์ไม้ขนาดกลาง สูงประมาณ 5-10 เมตร ลำต้นมีลายคล้ายข้อปล้อง โค้งงอและตั้งตรงได้สัดส่วนสวยงาม ขยายพันธ์ด้วยการแตกหน่อเป็นกอประมาณ 5-12 ต้น ใบมีลักษณะเป็นรูปขนนก แผ่นใบมีสีเขียวเหลือง ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองอ่อน หมากเหลืองขนาดสูง 1.8 เมตรจะคายน้ำประมาณ 1 ลิตร ทุกๆ24 ชั่วโมง ในบรรดาไม้ประดับดูดสารพิษด้วยกัน หมากเหลือง เป็นพืชที่ดูดสารพิษจากอากาศได้ในประมาณมากที่สุดชนิดหนึ่ง แนะนำให้ปลูกไว้ใน อาคารสำนักงาน หรือ บ้านเรือน

เดหลี (Peace Lily)
เด หลีเป็นไม้ประดับที่โดดเด่นมากชนิดหนึ่ง เนื่องจากให้ดอกสีขาวที่สวยงาม นิยมนำไปเป็นไม้ประดับในอาคาร เป็นไม้ที่คายความร้อนสูง มีคุณสมบัติสูงในการดูดสารพิษในอาคาร เดหลีเป็นไม้ประดับที่มีใบสีเขียมเข้ม มันเป็นวาว ดอกเป็นช่อสีขาวหรือแกมเหลือง กาบหุ้มช่อดอก มีสีขาวคล้ายดอกหน้าวัว เป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร โดยธรรมชาติเดหลีชอบขึ้นอยู่ตามริมลำธารที่มีร่มเงาในป่าฝนเขตร้อน แต่เมื่อนำมาปลูกเป็นไม้ประดับในอาคาร เดหลีก็สามารถปรับตัวได้ดี แม้จะมีความชื้นต่ำและรับแสงจากหลอดไฟ เพียงแต่ดินต้องมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เป็นไม้ประดับในจำนวนน้อยชนิดที่สามารถออกดอกได้ภายในอาคาร เดหลีสามารถดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอไรเอทีลีนีน เบนซีน และฟอร์มาลดีไฮด์ จึงเหมาะที่จะนำเดหลีประดับไว้ในสำนักงานหรือบ้านเรือน

เยอบีร่า (Gerbera Daisy)
เยอ บีร่าไม้ประดับที่ให้ดอกสีสวยสดใส และคงทนอยู่นาน แม้จะตัดออกมาพักแจ ก็ยังอยู่ได้นานหลายวัน จึงเป็นไม้ประดับที่นิยมนำมาประดับในอาคาร มีคุณสมบัติสูงในการดูดสารพิษจากอากาศภายในได้ดีเยี่ยม เยอบีร่าเป็นไม้พุ่มมีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเป็นแฉกมีสีเขียวสด ก้านใบและใบมีขนละเอียด ก้านดอกแตกออกจากลำต้นใต้ดิน ยาวตั้งตรง ดอกมีสีสันหลากหลาย เช่น แดง ส้ม เหลือง ม่วง ชมพู ขาว มีอัตราการคายความชื้นสูง จึงเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่า เหมาะแก่การปลูกไว้ในอาคารสำนักงานและบ้านเรือน

วาสนาอธิษฐาน (Cornstalk Plant)
วาสนา อธิฐาน เป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่สูงประมาณ 5-6 เมตร ชอบแสงแดดจัด นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับในอาคาร เนื่องจากรูปทรงสวยแปลกตาและคงทนอยู่ได้ในที่มีแสงสว่างน้อย วาสนาอธิฐานมีลำต้นตั้งตรงมีสีน้ำตาลอ่อน ใบแตกจากหน่อที่ปลายลำต้น เป็นใบเดียวลักษณะเรียวยาว ปลายแหลมโคนสอบเข้าหาใบซึ่งเป็นกาบติดกับลำต้น พื้นใบมีสีเขียวมีลายสีเหลืองพาดกลางไปตามความยาวของใบ ใบอ่อนจะแตกตรงส่วนยอดของต้น ดอกออกเป็นช่อสีเหลือง กลิ่นหอมส่งกลิ่นไปได้ไกล นิยมนำลำต้นของวาสนาอธิฐานมาตัดเป็นท่อนๆยาว6-8นิ้วแล้วตั้งในถาดตื้นหล่อ น้ำไว้นำไปตั้งประดับดุสวยงาม วาสนาอธิฐานเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ดูดสารพิษภายในอาคารจำพวก ฟอร์มาลดีไฮด์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง

  1. พรรณไม้กำจัดสารพิษ [ออนไลน์][อ้างอิงวันที่16 January 2007] เข้าถึงได้จาก: http://www.panmai.com/Pollution/Pollution.shtml
  2. ไม้ ประดับภายในอาคาร [ออนไลน์][อ้างถึงวันที่ 16 January 2007] เข้าถึงได้จาก: http://www.maipradabonline.com/maipradabin/sawnoiypabang.htm

สำนักหอสมุดและศูนย์สนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทร 0 2201 7250
E-mail apinya@dss.go.th

: สังคม
: บทความ
: สิ่งแวดล้อมดี
พรรณภัทร 17 พ.ย. 2552 18 พ.ย. 2552